เราเชื่อว่า ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพิมพ์โบรชัวร์ของคุณ ชนิดและน้ำหนักของกระดาษมักจะเป็นหนึ่งในสิ่งสุดท้ายที่คุณพิจารณา โดยหลักแล้วดีไซนและเนื้อหาจะเป็นสิ่งที่ทุกคนนึกถึงเป็นอย่างแรก

เราเชื่อว่า ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการพิมพ์โบรชัวร์ของคุณ ชนิดและน้ำหนักของกระดาษมักจะเป็นหนึ่งในสิ่งสุดท้ายที่คุณพิจารณา โดยหลักแล้วดีไซนและเนื้อหาจะเป็นสิ่งที่ทุกคนนึกถึงเป็นอย่างแรก แม้ชนิดและน้ำหนักของกรดาษจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้งานชิ้นนั้นๆออกมาดีที่สุด

หลังจากที่คุณตัดสินใจเรื่องขนาดของกระดาษและจำนวนที่คุณต้องการแล้ว คุณอาจคิดที่จะปริ้นเลย แต่ช้าก่อนเราขอให้คุณหยุดและคิดถึง 4 ข้อสำคัญเหล่านี้ก่อนการสั่งพิมพ์

1. วิธีการเย็บของกระดาษ

2. ประเภทของกระดาษที่คุณต้องการ

3. น้ำหนักความหนาของกระดาษที่คุณต้องการ

4. คุณต้องการกระดาษที่เคลือบผิวหรือไม่

การเลือกประเภทของกระดาษนั้นมีผลกระทบต่อราคาและคุณภาพของกระดาษ คุณภาพของกระดาษมักจะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ก่อนที่ลูกค้าจะทดลองสินค้าหรือการบริการของคุณ ถ้าหากว่ากระดาษโบรชัวร์มีคุณภาพที่ดี ลูกค้าก็จะมีความรู้สึกที่กับสินค้าหรือการบริการของคุณ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจกับทุกรายละเอียดของงาน ในขณะที่กระดาษที่มีคุณภาพไม่ดีนั้นน่าจะแสดงภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก อีกทั้งกระดาษที่มีคุณภาพไม่ดีสามารถฉีกขาดได้ง่าย ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ได้นานเท่าที่ควร

อีกทั้งคุณต้องคำนึงถึงสีของข้อความและภาพ ข้อความหรือรูปที่มีสีสันมากๆมักจะมีโอกาสที่ข้อความหรือรูปนั้นจะสะท้อนไปยังกระดาษด้านหลัง เพราะฉะนั้นคุณต้องคำนวนให้ถี่ถ้วนก่อนจะสั่งการพิมพ์เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเมื่อเกิดความผิดพลาด

น้ำหนักความหนาของกระดาษนั้นถูกวัดค่าโดย แกรม หมายถึงกรัมต่อกระดาษ 1 ตารางเมตร ยิ่งน้ำหนักความหน้าของกระดาษมากขึ้นเท่าไร น้ำหนักสุทธิและความหนาของกระดาษก็จะมากขึ้นเท่านั้น

1. 80-100 gsm: น้ำหนักความหนาของกระดาษระดับมาตรฐาน ซึ่งไม่นิยมใช้เป็นกระดาษเพื่อทำโบรชัวร์

2. 110-120 gsm: น้ำหนักความหนาของกระดาษระดับนี้มักใช้กับจดหมายที่มีตราบริษัทหรือหน่วยงาน หรือ หน้าปกรายงาน

3. 130-170 gsm: น้ำหนักความหนาของกระดาษระดับนี้มักใช้เพื่อทำโปสเตอร์, ใบปลิว, หรือกระดาษข้างในโบรชัวร์

4. 170-200 gsm: ระดับความหนาช่วงนี้คือจุดกึ่งกลางระหว่างความหนาที่ไว้ใช้ทำการ์ดและกระดาษ เหมาะกับการใช้ทำหน้าปกของโบรชัวร์หรือโบรชัวร์ที่ปริ้นสองหน้า

5. 200-250 gsm: น้ำหนักความหนาของกระดาษระดับนี้มักใช้เพื่อทำการ์ดหรือบอร์ดที่ต้องการความหนาของกระดาษเป็นพิเศษ หากว่าจะใช้ความหนาเท่านี้ทำเป็นหน้าปกของโบรชัวร์ก็ยังคงทำได้

6. 300-400 gsm: น้ำหนักความหนาของกระดาษที่มากกว่า 300 gsm นั้นมักจะใช้เพื่อทำนามบัตรเป็นส่วนใหญ่

7. 400 gsm เป็นต้นไป: น้ำหนักความหนาของกระดาษระดับนี้มักใช้เพื่อทำนามบัตรที่ต้องการความหนาเป็นพิเศษ ถ้านามบัตรที่มีความหนาเกิน 400 gsm ถือได้ว่าเป็นกระดาษคุณภาพดีและหนา

ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจปริ้นหรือพิมพ์โบรชัวร์ อย่าลืมคิดถึงระดับความหนาของกระดาษด้วย เพราะระดับความหนาสามารถบอกอะไรได้เยอะกว่าข้อมูลในกระดาษ Gogoprint ให้คุณเลือกกระดาษสำหรับพิมพ์โบรชัวร์ของคุณได้เอง

การทำโบรชัวร์ต้องคำนึงถึงน้ำหนักความหนาของกระดาษ